การส่งออกผลไม้สด เป็นกุญแจสำคัญในการบุกตลาดต่างประเทศ ซึ่งผลไม้ไทยนับว่าเป็นผลไม้มีคุณภาพสูง ที่คู่แข่งผลไม้ประเภทเดียวกับไทยยากจะเลียนแบบ ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม ฟิลิปปินส์ หรืออินเดีย อีกทั้งผลไม้สดก็เป็นที่ต้องการในตลาดโลก จะเห็นได้จากการนำเข้าผลไม้สด/แห้ง/แช่เย็น/แช่แข็งของตลาดโลก คิดเป็นมูลค่า 105,354 ล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2556 ขณะที่ผลไม้แปรรูปในรูปแบบแช่อิ่ม ฉาบ แยม เยลลี่ กวน ผลไม้ในน้ำเชื่อม ผลไม้กระป๋อง และน้ำผลไม้ ด้านหนึ่งอาจสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลไม้แต่ความต้องการนำเข้าในตลาดโลกมีเพียง 33,354 ล้านดอลลาร์ฯ
แต่เมื่อหันมามองการส่งออกสินค้าผลไม้ของไทย กลับเป็นการส่งออกผลไม้แปรรูปในสัดส่วนที่สูงคิดเป็นร้อยละ 57 ของการส่งออกผลไม้สดและแปรรูปของไทย มีมูลค่า 1,726 ล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2557 ขณะที่การส่งออกผลไม้สดของไทยมีมูลค่า 1,292 ล้านดอลลาร์ฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 43 จึงเป็นโอกาสที่ไทยน่าจะผลักดันการขยายช่องทางการส่งออกผลไม้ไทย ในรูปแบบที่คงความสดและรสชาติเหมือนรับประทานในประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบันยังมีการส่งออกไม่มากและบางส่วนเป็นการส่งออกผลไม้ในรูปแบบแห้ง และแช่แข็งทำให้สูญเสียจุดเด่นด้านรสชาติของผลไม้ไทย
ในฝั่งของผู้ผลิตและส่งออกผลไม้โดยเฉพาะในประเทศพัฒนาแล้วที่มีเทคโนโลยีการผลิตและแปรรูปทันสมัยก็ยังเน้นไปที่การส่งออกผลไม้สด/แห้ง/แช่เย็น/แช่แข็ง ซึ่งสร้างรายได้ในสัดส่วนที่สูงกว่าผลไม้แปรรูป ไม่ว่าจะเป็นผู้ส่งออกผลไม้สดตระกูลแอปเปิ้ล เชอร์รี่จากสหรัฐฯ สเปน เนเธอร์แลนด์ รวมทั้งญี่ปุ่นก็ยังให้ความสำคัญต่อคุณภาพผลไม้ ทั้งรูปลักษณ์ และรสชาติที่มีความเฉพาะตัวของความเป็นผลไม้ญี่ปุ่น อาทิ เมล่อนญี่ปุ่น จะเห็นได้ว่าประเทศดังกล่าวดึงจุดเด่นของผลไม้สดมาทำตลาด ขณะที่ผลไม้สดของไทยเมื่อออกสู่ตลาดต่างประเทศก็มีศักยภาพเป็นสินค้าเกรดพรีเมียมที่มีราคาสูงวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำในต่างประเทศได้อยู่แล้ว ผู้ประกอบการจึงควรเร่งผลักดันการผลิตและการส่งออกผลไม้สดไทยเพื่อแสวงหาโอกาสที่ยังมีอีกมากในตลาดโลก